ประวัติ ของ เสิ่น เตี้ยนเสีย

เสิ่นเตี้ยนเสีย เกิดที่เมืองเซี่ยงไฮ้ จีนแผ่นดินใหญ่ พออายุ 13 ปีเดินทางมาฮ่องกง ต่อมาในปี 1960 เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงครั้งแรกในฐานะนักแสดงเด็กในภาพยนตร์เรื่อง “อีซู่เถาฮวาเชียนตั่วหง” 《一树桃花千朵红》

เธอถือเป็นศิลปินผู้บุกเบิกให้กับ สถานีโทรทัศน์ฮ่องกง ทีวีบี เธอรับหน้าที่เป็นพิธีกรรายการ “ฮวนเล่อจินเซียว” 《欢乐今宵》 ซึ่งแพร่ภาพนานถึง 20 ปี จนกระทั่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “พิธีกรป้ายทอง” นอกจากนี้เธอยังได้ตั้งวงดนตรีร่วมกับ เฉินจื้อเฉียง เฉินหาว เติ้งกวางหรง ฉินเสียงหลิน และเซี่ยเสียน ว่า “วงหนูเงิน” ขึ้น และได้รับความนิยมทั้งในฮ่องกงและไต้หวัน และเป็นช่วงเวลาที่เธอได้แสดงนำในภาพยนตร์เรื่อง “ชีสือเอ้อร์เจียฝางเค่อ” 《七十二家房客》

ทางด้านชีวิตส่วนตัวเสิ่นเตี้ยนเสียได้รู้จักกับเจิ้งเส้าชิว และคบหากันเป็นแฟน ในขณะที่เจิ้งเส้าชิวยังเป็นแค่ดาราเล็กๆ แต่ด้วยความช่วยเหลือจากเสิ่นเตี้ยนเสีย ทำให้เจิ้งเส้าชิวได้มีโอกาสรับบทดีๆ ทำให้เขาเริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้น ซึ่งทั้งคู่แต่งงานกันเมื่อ 5 มกราคมปี 1985 ที่แคนาดา และตั้งครรภ์ และมีลูกคนแรกในเดือน มิถุนายนปี 1987 ลูกสาวคนแรก เจิ้งซินอี๋ แต่หลังจากนั้นไม่นาน ก็ได้หย่าขาดในอีก 8 เดือนต่อมา

ในช่วงทศวรรษที่ 90 เธอยังรับงานภาพยนตร์หลายเรื่อง เช่น “เหม่ยหนันจื่อ” 《美男子》, “จุ้ยเจียหนี่ว์ซี่ว์” 《最佳女婿》 , “ซวงเฝยหลินเหมิน” 《双肥临门》, “ฟู่กุ้ยจ้ายปีเหริน” 《富贵再逼人》เป็นต้น

ในปี 2005 เสิ่นเตี้ยนเสียเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลควีน แมรี่ และตรวจพบเชื้อมะเร็งในตับอ่อน ซึ่งถึงแม้จะได้รับการผ่าตัดเอาเนื้อร้ายออกไปแล้ว แต่ก็ยังไม่หายขาด ยังต้องเข้าโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง และทำให้เธอไม่สามารถทำงานบันเทิงต่อได้ ต้องหยุดชั่วคราว และต่อมาในวันที่ 17 พฤศจิกายน ปี 2007 สถานีโทรทัศน์ทีวีบีได้มอบรางวัลอันทรงเกียรติ “รางวัลศิลปินผู้ประสบความสำเร็จสูงสุด” เพื่อเป็นการขอบคุณคุณูปการที่เสิ่นเตี้ยนเสียมอบให้แก่วงการบันเทิงจีนมาตลอดจนกระทั่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “Happy Fruit” ของฮ่องกง และเพื่อเป็นกำลังใจให้เธอต่อสู้กับโรคร้าย ซึ่งเธอก็มารับรางวัลด้วยตัวเองพร้อมกับรถเข็น ด้วยสภาพร่างกายอ่อนแอและผ่ายผอมจากโรคร้ายที่รุมเร้า โดยเธอกล่าวว่า “ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้รับรางวัลนี้ หวังว่าต่อจากนี้ร่างกายจะแข็งแรงขึ้น ฉันจะไม่ทิ้งอาชีพที่ฉันรักไปง่ายๆ”

จนเมื่อ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ ปี 2008 เธอก็สิ้นลมหายใจอย่างสงบ ที่โรงพยาบาลควีน แมรี่ในฮ่องกง ด้วยวัย 62 ปี